คลิปนาทีระทึก ช้างป่ายะลาวิ่งไล่ทำร้ายช่างภาพ บิดรถหนีเอาตัวรอด


ช้างป่าไล่ทำร้ายช่างภาพ ขณะถ่ายช้างป่าอาละวาดอีกรอบ ที่ ต.แม่หวาด จ.ยะลา ทำลายพืชผลการเกษตรเสียหาย ชาวบ้านเดือดร้อน
          วันที่ 24 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระทึกเมื่อช่างภาพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยงานปฏิบัติการพิเศษพลร่ม เจ้าหน้าที่อาสา และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย จำนวน 6 ราย ได้ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน ขี่ลาดตระเวนภายในหมู่บ้านกาเต็ง ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เพื่อขับไล่ช้างป่ากว่า 14 ตัว ที่ลงมาจากเทือกเขาฮาลา-บาลา มาเล่นน้ำคลายร้อนในเขื่อนบางลาง แต่เหล่าช้างป่าได้ทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายยับ
          ทั้งนี้เหตุระทึกเกิดขึ้นเมื่อขณะที่ช่างภาพกำลังเก็บภาพอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีช้างจ่าฝูง 1 ตัว ได้วิ่งออกมาจากป่าข้างทาง พร้อมส่งเสียงร้องและวิ่งไล่เข้ามาทำร้าย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่เร่งเครื่องหนีได้ทัน ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ขี่รถนำหน้าได้ถ่ายวิดีโอบันทึกภาพเหล่านั้นไว้






 อย่างไรก็ดี ทางด้าน ร.ต.ท. สมควร ศรีรุ่ง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจพลร่ม ฐานปฏิบัติการบ้านกาเต็ง ระบุว่า หน่วยลาดตระเวนชุดนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการขับไล่ช้างป่าโดยตรง โดยใช้วิธีจุดประทัดขนาดเล็กเพื่อขับไล่ช้าง แต่ช่วงหลังประทัดใช้ไม่ได้ผลเพราะช้างเริ่มชินเสียง ไม่หนีไปไหนและยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ทำให้ชาวบ้านผวาไม่กล้าเดินไปตัดยางและทำสวน เพราะเกรงว่าช้างจะทำร้าย แต่ทั้งนี้จะประชุมในระดับอำเภอและจังหวัดเพื่อหาแนวทางร่วมกันต่อไป 




 อย่างไรก็ดี ทางด้าน ร.ต.ท. สมควร ศรีรุ่ง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจพลร่ม ฐานปฏิบัติการบ้านกาเต็ง ระบุว่า หน่วยลาดตระเวนชุดนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการขับไล่ช้างป่าโดยตรง โดยใช้วิธีจุดประทัดขนาดเล็กเพื่อขับไล่ช้าง แต่ช่วงหลังประทัดใช้ไม่ได้ผลเพราะช้างเริ่มชินเสียง ไม่หนีไปไหนและยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ทำให้ชาวบ้านผวาไม่กล้าเดินไปตัดยางและทำสวน เพราะเกรงว่าช้างจะทำร้าย แต่ทั้งนี้จะประชุมในระดับอำเภอและจังหวัดเพื่อหาแนวทางร่วมกันต่อไป 


ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า ผ่านมา 3 วันแล้ว ที่ช้างโขลง 14 ตัว ได้เดินลงมาจากเขาและทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน จนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก อยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการช่วยเหลือด่วน 

http://www.deenews.com/news5894.html


EmoticonEmoticon